การได้รับวิตามิน B12 และกรดโฟลิค (B9) อย่างเพียงพอ จะทำให้ยีนส์เสื่อมช้า แต่ถ้าขาด B12 และ B9 ดีเอ็นเอจะเปราะบางและขาดง่าย เป็นจุดที่จะทำให้เกิดการผ่าเหล่า (Mutation) ไปเป็นเซลล์มะเร็งได้ วิตามิน B12 และ B9 ทำงานร่วมกันในกระบวนการเมธิเลชั่น ซึ่งมีความจำเป็นต่อการทำงานเกือบทุกส่วนในร่างกาย ทำหน้าที่เปลี่ยนโครงสร้างของสารประกอบต่าง ๆ เพื่อให้สารนั้นมีคุณสมบัติเปลี่ยนไป เช่น การเปลี่ยนสารที่ได้จากเมตาบอลิซึ่มของฮอร์โมนเอสโตรเจนที่สามารถก่อมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งของอีกหลายอวัยวะได้ ให้เป็นเอสโตรเจนในรูปแบบที่ไม่มีพิษภัย โดยการเติมกลุ่มเมธิล (CH3) เข้าไป เรียกว่า การล้างพิษเอสโตรเจน หรือการสลายพิษของสารโฮโมซีสเทอีน (Homocysteine) ที่เป็นสาเหตุของเส้นเลือดหัวใจตีบ

ถ้ามีอาการดังต่อไปนี้ ให้สงสัยว่าอาจมีภาวะขาดวิตามิน B12
– สมองตื้อ หรือ ความจำถดถอย
– อารมณ์แปรปรวน (Mood swing)
– อ่อนเพลียโดยไม่มีสาเหตุ
– แขนขากระตุก
– กล้ามเนื้ออ่อนแรง
– อารมณ์ซึมเศร้า
– การมองเห็นเสียไป (Blindness)

เนื่องจากวิตามิน B12 ไม่ได้ถูกขับออกทางปัสสาวะ แต่ร่างกายเก็บสะสมไว้ในตับและไต ดังนั้นความเข้มข้นในเลือดจึงไม่สามารถบอกปริมาณที่มีในร่างกาย ถ้ามีอาการที่สงสัยว่าอาจจะมีภาวะขาดวิตามินB12 ควรเริ่มรักษาได้เลยโดยไม่ต้องรอผลการตรวจเลือด เช่น การเพิ่มปริมาณอาหารเนื้อสัตว์และไข่ หรือการใช้อาหารเสริมที่มีทั้งเป็นเม็ดและแบบสเปรย์ที่เข้มข้นและดูดซึมง่ายกว่า